เปลี่ยน SSD ,Hard disk ,RAM
เปลี่ยน SSD / Hard disk / RAM สำหรับ Mac และ PC Laptop
Upgrade SSD / Hard disk / RAM
อาการเครื่องช้า อยากให้เครื่องเร็วขึ้น อาการมองไม่เห็น Hard disk ,HDD พัง
อัปเกรด SSD : Mac / PC / Laptop
สำหรับ Mac รุ่นเก่า อยากให้เครื่องเร็วขึ้น อัปเกรด Hard disk แบบ SSD เร็วกว่าของเดิม 10 เท่า.
ส่วนใหญ่แล้วที่ร้านจะแนะนำ เป็นอันดับแรก สำหรับเครื่องที่ไม่เคยเปลี่ยน HDD มาก่อน ก่อนจะตัดสินใจอัปเกรด RAM เพราะการเปลี่ยน SSD สำหรับการใช้งาน (บาง User) ก็เพียงพอแล้ว.
เมื่ออัปเกรดเป็น SSD แล้ว ส่วนใหญ่จะไม่กลับมาอัปเกรด RAM เพราะใช้งานแถบจะเพียงพอแล้ว หากใครที่อยากให้เครื่องเร็วขึ้น 10 เท่ากว่าของเดิมที่ใช้อยู่ ลองพิจารณาอัปเกรด SSD เปลี่ยนแล้ว ชีวิตดีขึ้นทันที.
SSD มีแบบไหนบ้าง ?
SSD ปัจจุบันที่ใช้มีทั้งหมด 3 แบบ
- SSD ขนาด 2.5″ SATA (รอบรับ Mac / PC / Laptop)
- Flash Storage (Mac only)
- M.2 (รองรับ PC / Laptop)
SSD ปัจจุบันความจุมีขนาด (ความเร็วเท่ากัน ต่างกันที่ความจุ)
- 120 GB
- 250 GB
- 500 GB
- 1TB – 4TB ในปัจจุบัน
ประกัน SSD
แต่ละยี่ห้อ ก็ไม่เท่ากัน อยู่ตั้งแต่ 1 ปี 3 ปี 5ปี 10ปี
(SSD ขนาด 2.5″ SATA เขียน/อ่าน 500mb+- โดยประมาณ)
- SSD ขนาด 2.5″ SATA
สำหรับ MacBook iMac และ Mac mini รุ่นเก่า
สำหรับรุ่นที่เก่ากว่า 2011 ลงไป เปลี่ยน SSD ไปแล้ว อาจจะไวขึ้นนิดหน่อย เพราะติดเรื่อง port เชื่อมต่อที่เก่าเกินไป ทำให้ SSD วิ่งไม่เต็ม speed หากเปลี่ยนไปแล้ว ไปวัดความเร็ว เขียน/อ่าน ไม่ต้องตกใจ เขียน/อ่าน ของ SSD ขึ้นอยู่กับ Port ในเครื่องนั้น ๆ ลดทอนไปตามสภาพเครื่อง. SSD ข้างกล่อง เขียน/อ่าน อยู่ที่ 500/mb มาใส่รุ่นเก่า อาจจะทอนลงไปเหลือ 200-300/mb โดยประมาณ.
ที่ร้านรับเปลี่ยนเฉพาะรุ่น ต่อไปนี้
- MacBook Pro 13” มีช่อง CD ปี 2010
- Mid 2012 MacBook Pro 15” มีช่อง CD ปี 2011
- Mid 2012 iMac ตัวหนา 2010 – 2011
- iMac ตัวบาง 2012 – 2020
- Mac mini 2011 – 2014
- PC / Laptop (ขอเช็ครุ่นก่อน)
ความจุ มีให้เลือกเปลี่ยนตั้งแต่
- 250 GB
- 500 GB (แนะนำ)
- 1 TB SSD
ประกัน 3 ปี / พร้อมลง macOS และ APP / ใช้เวลาเปลี่ยน 2 – 3 ชั่วโมง
เมื่อเปลี่ยนแล้ว Harddisk เดิม สามารถทำอะไรได้บ้าง ?
Hard disk ลูกเดิม สามารถนำมาใส่ BOX ทำเป็น External ได้ โดยใส่กล่องแบบนี้ แต่ไม่แนะนำให้เก็บข้อมูลสำคัญแล้ว เพราะตามอายุตั้งแต่ใช้เครื่องมา Hard disk ใกล้พังแล้ว.
- SSD แบบ Flash Storage
SSD แบบ Flash Storage ผลิตจาก Apple ไม่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป และ ต้องเปลี่ยนตรงรุ่น ตรงปี เท่านั้น. “Flash Storage” ซึ่งมีความเร็ว เขียน/อ่าน มากกว่า SSD แบบ 2.5” เขียน/อ่าน อยู่ประมาณ 700-1000/mb ขึ้นไป.
MacBook ที่ใช้ Flash Storage “ที่สามารถอัพเกรดได้” มีรุ่นอะไรบ้าง ?
ตั้งแต่ปี 2010 : MacBook เริ่มใช้ Flash Storage ใน “MacBook Air” และเป็น standard ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.
และปี Late 2012 : Apple ได้นำ Flash Storage มาใส่อยู่ใน MacBook Pro Retina.
จนมาถึง ปี 2016 : MacBook ได้ถูกเปลี่ยนโฉมอีกครั้ง เปลี่ยนมาใช้ SSD ฉบับที่ Apple ผลิตเองเช่นเคย มีเฉพาะรุ่น “MacBook Pro 13” non touch bar ปี 2016 – 2017” เท่านั้น.
รุ่นที่กล่าวมานี้ ไม่สามารถทำให้เครื่องเร็วขึ้นกว่าเดิมได้แล้ว เพราะเครื่องเป็น SSD เร็วอยู่แล้ว เพียงแค่สามารถเปลี่ยนความจุให้มากขึ้นได้เท่านั้น.
ปัจจุบันรุ่นที่ใช้ Flash Storage “ที่สามารถอัพเกรดได้”
- MacBook Air 11 / 13” ปี 2010 – 2017
- MacBook Pro 13 / 15” ปี 2012 – 2015
- MacBook Pro 13″ 2016 – 2017 เฉพาะรุ่นที่เป็นแบบ “Non Touch Bar” (ไม่มี Touch Bar)
ที่ร้านรับเปลี่ยนเฉพาะรุ่น ต่อไปนี้
- MacBook Air 2013 – 2017
- MacBook Retina Late 2013 – 2015
- MacBook Pro 13″ Non Touch Bar 2016 – 2017 (สินค้าหมด ยังไม่มีกำหนดเข้า)
ความจุ
- 256GB
- 500 GB
- 1 TB
รับประกัน 1 ปี ใช้เวลาเปลี่ยน พร้อมลง macOS / App ประมาณ 2 ชั่วโมง +-
MacBook แต่ละ ปี Flash Storage แตกต่างกัน
“M.2” ใส่ MacBook ได้ไหม ?
คำตอบคือ “ไม่ได้”
สำหรับ MacBook ต้องใช้ Flash Storage ของที่ Apple ออกแบบผลิตเท่านั้น สังเกต port ของ Flash Storage กับ M.2 แตกต่างกันชัดเจน เลยทำให้ ‘ไม่สามารถ” ใส่เข้าไปในเครื่อง MacBook ได้.
ทำไมบางคนถึงบอกว่าใส่ได้ ?
คำตอบคือ มีอุปกรณ์ 1 ชิ้น ที่ทำออกมาเพื่อมา “แปลง” ให้ M.2 ใส่ใน Macbook ได้ แต่ที่ร้าน ไม่แนะนำ เพราะผลเสียมันเยอะกว่าผลดี (มีเคสที่ซ่อมจากเรื่องนี้มาแล้ว) ยังแนะนำ ใส่ให้ตรงรุ่น จะดีกว่า โดยไม่ผ่านอุปกรณ์การดัดแปลงใด ๆ.
รุ่นที่ “ไม่สามารถอัปเกรด” ความจุได้เองทีหลัง
มีรุ่นต่อไปนี้
- MacBook 12″
- MacBook Pro 13” 15″ Touch Bar 2016 ขึ้นไป (รุ่นที่มี Touch Bar ทั้งหมด ไม่สามารถอัพเกรดได้)
- MacBook Air 13” 2018 ขึ้นไป
- Mac mini 2018 ขึ้นไป
- และ รุ่นที่เป็นชิป M1 ทุกรุ่น (Air ,Pro ,iMac ,Mac mini)
เนื่องจากความจุของรุ่นพวกนี้ เป็นแบบฝั่งชิป ลงบน Logic board จึงไม่สามารถแกะชิปเปลี่ยนใหม่ได้. ที่เห็นว่ารับทำรับเปลี่ยนแบบนี้ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาตามมาทีหลัง และ เคยซ่อมเคสแบบนี้ด้วย จึง “ไม่แนะนำ” ให้ทำ.
ตามรุ่นที่กล่าวมา หากต้องการ เพิ่มความจุ ทำอย่างไร ?
ต้อง CTO ตั้งแต่ซื้อเครื่องครั้งแรกเท่านั้น ตอนซื้อเครื่องรุ่นพวกนี้ เราต้องรู้ก่อนว่า เราจะต้องใช้ความจุขนาดเท่าไหร่ดี 256 GB พอไหม 500 GB ไปเลยดีไหม หรือ จะจัด 1,2 TB ไปเลยเพราะอัปเกรดอะไรไม่ได้ ต้องคำนวนดี ๆ ตั้งแต่ซื้อเครื่องครั้งแรก ตาม shop Apple หรือตัวแทนจำหน่าย รุ่นเริ่มต้น จะมีความจุอยู่ที่ 256 GB หากเราต้องการ CTO แจ้งกับทาง Apple ก็ได้ หรือ กดซื้อเครื่องที่ https://www.apple.com/ ก็ได้เช่นกัน เมื่อกดเข้าไปแล้ว ให้ดูที่ “ตัวจัดเก็บข้อมูล” SSD ให้ตัดสินใจ เปลี่ยนความจุที่ต้องการได้เลย ตามงบประมาณของเรา ใช้งานทั่วไป 256 GB / ใช้งานจริงจังแนะนำ 500 GB ขึ้นไป.
อัปเกรด SSD หรือ เพิ่มความจุ สำหรับ PC / LAPTOP
PC และ Laptop อัพเกรดเป็น SSD ได้ โดยต้องดูบอร์ดในเครื่องว่ารองรับ SSD แบบไหน M.2 หรือ SATA 2.5″
- ความจุแนะนำ 500 GB – 1TB สำหรับสาย 3D สถาปัตย์ ทั่วไป
- แนะนำที่ 250 GB ลง Windows 10 (download จาก Microsoft ตรง)
ปกติแล้วเครื่องรุ่นใหม่ จะฝั่ง Key Windows ลงตัวบอร์ด (สำหรับบางรุ่น) การลง Windows ใหม่เลยไม่ใช่ปัญหาเรื่อง Key แต่หากลูกค้ามี key Windows แนะนำให้ติดมาด้วย พร้อมอัพเดท Windows ใหม่ / อัพเดทและ ลง Driver ใหม่ ทั้งหมด
ใช้เวลาทั้งหมด 3 – 4 ชั่วโมง SSD M.2 ประกัน 3 ปี
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
จองคิวซ่อม
- ผลงานซ่อม
-
เงื่อนไขการรับซ่อม
เงื่อนไขการรับซ่อม
- โปรดตรวจสอบรายการที่ส่งซ่อมกับร้าน MacPhone ให้ครบตามรายการที่ระบุไว้.
- เลขใบรับซ่อมทาง Line และ เบอร์โทรศัพท์ กับร้านMacPhone เป็นเอกสารสำคัญที่ต้องนำมาใช้เป็นหลักฐาน ในการรับเครื่อง และ การรับประกัน.
- การรับประกันงานซ่อมกับร้านMacPhone ทางร้านจะรับซ่อมเฉพาะอาการที่ลูกค้าแจ้งเท่านั้น นอกเหนืออาการอื่นไม่อยู่การรับประกันของทางร้าน.
- ทางร้าน MacPhone ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการแก้ไข รวมทั้งการซ่อม หรือ เปลี่ยนส่วนที่ชำรุด เพื่อให้เครื่องใช้งานได้ปกติ โดยไม่รับคืนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่ชำรุดนั้น ๆ.
- โปรดตรวจเช็คเครื่อง ให้เรียบร้อยก่อนนำเครื่องออกจากร้าน MacPhone.
การรับประกัน
- รับประกัน ตั้งแต่วันที่แจ้งซ่อมเสร็จ
- การรับประกัน ตามวัน-เวลา ที่ร้าน MacPhone กำหนดเท่านั้น. หากเลยกำหนดระยะการประกัน ไม่อยู่การรับประกันจากทางร้าน.
- เช่น แจ้งปัญหาก่อนหมดประกัน แต่มาส่งเครื่องเพื่อเคลมประกัน เลยวันระยะประกัน ถือว่าหมดประกัน.
- โปรดรับเครื่องภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่แจ้งเครื่องซ่อมเสร็จ หากพ้นกำหนดนี้ ทางร้านจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณี.
- การรับประกันเฉพาะอาการที่เกิดจากตัวอะไหล่เท่านั้น ไม่รวมอุบัติเหตุอื่นๆ เช่น หล่น โดนน้ำ ช็อต ตกกระแทก อุบัติเหตุที่เกิดจากลักษณะการใช้งานของ user.
- วอยด์ร้านฉีดขาด, ถูกลอก ถือว่าไม่อยู่การรับประกัน กับร้าน MacPhone.
- การรับประกัน สำหรับ User ที่มีประวัติ ณ วันส่งซ่อมเท่านั้น. สำหรับ User อื่น หรือ บุคคลอื่นที่ไม่มีประวัติกับทางร้าน ไม่อยู่การรับประกันของทางร้านMacPhone.
1.1 สำหรับเครื่องที่อาการเปิดไม่ติด
1.1.1 ไม่สามารถเช็คเครื่องตอนส่งเครื่องซ่อมได้ ไม่สามารถเช็คความเสียหายโดยรวมได้ เนื่องจากเปิดเครื่องไม่ติด
1.1.2 ทางร้านซ่อมเพื่อให้เครื่องเปิดติดได้เท่านั้น ไม่รวม กรณีเสียหายสำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ
1.1.3 หากมีความเสียหายอุปกรณ์อื่น ไม่อยู่การรับประกันจากทางร้าน (อ้างอิง ข้อ3. เงื่อนไขการรับซ่อม)
1.1.4 หากอุปกรณ์อื่นมีความเสียหายต่อเนื่องจากเหตุการณ์เครื่องโดนน้ำเปิดไม่ติด ทางร้านจะแจ้งความเสียหายก่อนซ่อมทุกครั้ง
2.2 สำหรับเครื่องซ่อมไม่ได้ แจ้งคืนเครื่อง
2.2.1 กรณีซ่อมไม่ได้ แจ้งคืนเครื่อง โปรดมารับสินค้าภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ทางร้าน MacPhone แจ้ง หากเลยระยะเวลากำหนด ทางร้านไม่รับผิดชอบทุกกรณี
3.3 สำหรับฝากของ หรือ กระเป๋า หรือ อื่น ๆ
3.3.1 หากฝากสำภาระไว้เป็นระยะเวลามากกว่า 30 วัน ทางร้านไม่รับผิดชอบทุกกรณี
4.4 สำหรับรับเครื่องซ่อม
4.4.1 โปรดรับเครื่องภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่แจ้งเครื่องซ่อมเสร็จ หากพ้นกำหนดนี้ ทางร้านจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณี.
4.4.2 โปรดระบุวันนัดรับ ก่อนรับเครื่องทุกครั้ง
4.4.3 หากฝากบุคคลอื่นมารับแทน ให้บุคคลนั้นรับผิดชอบในการเช็คเครื่อง ก่อนออกจากร้าน MacPhone
4.4.4 ไม่สะดวกรับเอง เรียก Grab / LINE MAN รับได้ โปรดแจ้งทางร้านก่อนทุกครั้ง และ ให้บุคคลนั้นรับผิดชอบในการเช็คเครื่อง
โปรดตรวจเช็คเครื่องให้เรียบร้อย ก่อนออกจากร้าน MacPhone ทุกครั้ง